วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

Langkawi @ มาเลเซีย

ลังกาวี


ลังกาวี เป็นเกาะที่เน้น Duty Free ผสมผสานกับนิยายเรื่องเล่า ชักชวนให้ความสัมพันธ์เน้นเฟ้นระหว่างไทยกับมาเลเซีย ชื่นชมการสร้าง Theme ท่องเที่ยวแบบนี้จัง ฟังสนุกจ่ายสบาย การเดินทางเป็นช่วงของวันธรรมดา แต่คนไทยก็ไปหนาตา ประเภทเช้าไปเย็นกลับหรือ พักหนึ่งคืน นานกว่านั้น ก็ไม่แน่ใจว่า จะมีอะไรที่น่าสนใจได้อีก


วันนี้ท้องฟ้าเปิด หลังจากที่เจอฝนบางตาที่ฝั่งบ้านเรา การตรวจคนเข้าเมือง ก็ไม่เข้มงวดกวดขันเท่าใดนัก ส่งเสริมให้ไปใช้จ่ายเงินจริง ๆ น้องไกด์บอกว่า ที่ท่าเรือ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหนาตา หากมีการวิ่งราว เราไม่ต้องกังวล อีกสักไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็จะจับคนร้ายได้ เขารับประกันขนาดนั้น


จุดไฮไลท์ของลังกาวี

กลุ่มป้า ๆ บอกว่า ถ่ายแค่นี้พอ ไม่ต้องไปใกล้ก็ได้ เห็นวิวชัดดี เรารู้ว่า เป็นข้ออ้างของพวกที่ไม่ชอบเดินชมแต่ชอบเดินช็อป ก็เลยได้วิวมาประมาณนี้

 
  
เกาะนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยเรียงรายเกือบร้อยเกาะ

ดินแดนสินค้าปลอดภาษีแห่งนี้ มีเที่ยวบินจากมาเลเซีย ที่เห็นเด่นสง่าก็แอร์เอเซีย ดังนั้น สนามบินก็เป็นอีกแหล่งของสินค้าปลอดภาษี ใช้จ่ายได้เต็มที่ อัตราแลกเปลียน ตอนนี้ 9.8 บาทต่อ 1 ริงกิต ภาษามาเลเซียและภาษาอังกฤษเป็นหลัก



คำว่า เสือเหลือง คงไม่ผิดจากที่เห็นนัก
  
ภาษาบาซาฮามาเลเซีย เห็นอยู่เกลื่อนตา แต่แปลไม่ออก เดา ๆ เอา


ช่วงที่เราไปเป็นวันหลังจากวันชาติ ดังนั้นทั่วทั้งเกาะจึงประดับไปด้วยธงชาติมาเลเซียและธงวันสถาปนา กลิ่นอายของพรรคอัมโน มีอยู่ทั่วเช่นกัน จากนั้นก็เป็นวันหยุดหลังจากการสอบปลายภาค ที่นี่ไม่มีหยุดยาวระหว่างภาคเรียนที่ 1 และ 2 สอบเสร็จก็ต่อด้วยภาคเรียนที่ 2 เลย จะหยุดอีกทีก็ช่วงปลายปี ดังนั้น วันนี้ จึงเป็นวันที่เราเห็นครอบครัวของชาวอิสลาม ออกมาจับจ่ายซื้อของเต็มทุกร้าน

 
ผู้หญิงซื้อได้ทุกอย่าง แม้ว่าหล่อนจะซื้อไปเก็บ


สินค้าในร้าน ที่คนนิยมซื้อคือ เป็นเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องแก้ว เครื่องครัว ทั้งที่ผลิตจากแก้วและสแตนเลส มีสินค้าของบ้านเราไปยืนเคียงข้างสินค้าแบรนด์แนมอื่น นั้นคือ หัวม้าลาย  และโอเซียน และส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นแนวเครื่องแก้วแบบวินเทจ เต็มร้านรวงไปหมด ไม่แปลกตาถ้าเราจะเห็นภาพแบบนี้ซ้ำ ๆ กับทุกร้านที่ไป

  
หลังป้ายใหญ่ เป็นการถมทะเล


ย่านการค้าหลายแห่ง เป็นที่ซึ่งถมทะเล แล้วทิ้งไว้หลายปีเพื่อให้ดินเช็ทตัว แล้วจึงปลูกสิ่งก่อสร้าง ไม่สูงมากเรียงรายไปด้วยร้านค้าที่กำลังจะเปิดตัวและปิดตัวไปบ้าง ตามครรลองของการทำมาหากิน  คนที่รำรวยในเกาะนี้กลับเป็นเจ้าของที่นาและสวนยาง เพราะจะได้รับการดูแลและสนับสนุนจากรัฐบาล แถมมีโบนัสให้ถ้าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและพัฒนายิ่งขึ้น  น่าอิจฉาชาวนาบนเกาะนี้



โรงแรมที่พัก สไตล์ยุโรป


นักท่องเที่ยวที่แปลกตา ออกไปก็คือ ชาวจีน  เดินสวนทางทั้งที่พักในโรงแรมและในร้านปลอดภาษี  เขาทักทายคนแปลกหน้าอย่างพวกเรา ด้วยภาษาแมนดารีนได้คล่อง ผิดกับเราต้องกล้อมแกล้มตอบด้วยภาษาอังกฤษแบบคนไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร..โอ้ภูมิใจมากกก..



Photo > Text : Pimporn  Sarichun
September 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น